The Great Blue Hole หลุมยักษ์สีน้ำเงินคราม
The Great Blue Hole หรือที่เรียกกันว่า หลุมยักษ์สีน้ำเงินคราม หลายคนน่าจะเคยเห็นภาพของหลุมยักษ์สีน้ำเงินครามกลางมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง ยิ่งมองก็ยิ่งสงสัยข้างใต้นั้นมันมีอะไรกันแน่? และอะไรกันแน่ที่ดึงดูดนักผจญภัย และนักดำน้ำทั่วโลกให้มาสำรวจ เรามาลองดูกันดีกว่าว่าที่นี่มีอะไรบ้าง
- ข้อมูลเบื้องต้น The Great Blue Hole

ที่นี่เป็นหลุมยุบทางทะเลยักษ์ ตั้งอยู่นอกชายฝั่งประเทศ เบลีซ ตั้งอยู่ใกล้ศูนย์กลางของ Lighthouse Reef ซึ่งเป็นเกาะปะการังขนาดเล็ก อยู่ห่างออกไป 70 กม. จากแผ่นดินใหญ่ ปากหลุมมีรูปร่างเป็นวงกลม กว้าง 318 ม. และลึก 124 ม. (ประมาณตึก 35 ชั้น) จากการวิเคราะห์หินงอกหินย้อยที่พบในหลุมนี้ พบว่าถ้ำภายในนี้มีการก่อตัวเกิดขึ้นในหลายยุคมาก ๆ ตั้งแต่ 153,000 ปี 66,000 ปี 60,000 ปี และ 15,000 ปีก่อน
และก่อนที่มันจะกลายมาเป็นถ้ำใต้น้ำสุดมหัศจรรย์ขนาดนี้ มันเคยเป็นเพียงถ้ำหินที่ตั้งอยู่บนเกาะปะการังมาก่อน จะกระทั้งน้ำในมหาสมุทรเริ่มสูงขึ้น ถ้ำก็ถูกน้ำท่วมและยุบตัวลงจนกลายเป็นหลุมทะเลอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
ที่นี่ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของระบบอนุรักษ์แนวปะการัง เบลีซแบร์ริเออร์รีฟ (Belize Barrier Reef Reserve System) ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นมรดกโลกของยูเนสโก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับทั้งดำน้ำลึกและดำน้ำตื้น ภายในหลุมนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตทางทะเลที่หลากหลาย รวมถึงปลาฉลาม และปลากระเบน
- หลุมยักษ์สีน้ำเงินคราม สวรรค์นักดำน้ำ และนักผจญภัย

สำหรับนักดำน้ำ The Great Blue Hole ถือว่าเป็นแหล่งสำรวจถ้ำใต้น้ำที่พิเศษมาก ๆ ยิ่งลงไปลึกก็ยิ่งพบหินงอกหินย้อยโบราณที่เกิดขึ้นในช่วงยุคน้ำแข็งสมัยที่ถ้ำยังอยู่เหนือน้ำ ยิ่งความที่น้ำทะเลตรงนี้ที่ใสมาก ๆ ทำให้นักดำน้ำสามารถสังเกตเห็นสัตว์ทะเลหลายชนิด รวมถึงปะการังที่มีชีวิตชีวา เป็นการผจญภัยที่ทุกคนล้วนตะลึงกับความงาม และความซับซ้อนของโลกใต้น้ำ
- ควรไปเที่ยวช่วงไหนดี?

สำหรับฤดูท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของที่นี่ จะเป็นช่วงเมษายน – มิถุนายนของทุกปี ใครตั้งใจไปดำน้ำจำเป็นจะต้องมีใบรับรองการผ่านหลักสูตรดำน้ำ และมีประสบการณ์มาก่อน เนื่องจากนักดำน้ำที่นี่ต้องใช้ทักษะที่สูงมาก รวมถึงต้องพิจารณาสภาพอากาศ และเวลาที่ดีที่สุดก่อนดำน้ำทุกครั้ง หรือถ้าไม่อยากยุ่งยากจริง ๆ ที่นี่ก็มีผู้ประกอบการ และบริษัททัวร์มากมายให้บริการพร้อมไกด์ที่มีประสบการณ์
ขอบคุณรูปภาพและแหล่งที่มา : viatravelers
อ่านข่าวต่อ : หน้าแรก